โดยใช้อาคารขององค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหม้อ หมู่ที่ 2 เป็นสถานที่พบกลุ่มและดำเนินกิจกรรมงานการศึกษานอกโรงเรียน การจัดกระบวนการเรียนด้านการศึกษาพื้นฐาน การศึกษาเพื่อทักษะชีวิตและการศึกษาเพื่อพัฒนาสังคมและชุมชนให้กับประชาชนตำบลบ้านหม้อ
ตำบลบ้านหม้อ
ตำบลบ้านหม้อ หรือบ้านหม้อ คำนี้ได้ปรากฏในการเสด็จประพาสของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อคราวเสด็จหัวเมืองฝ่ายเหนือ ได้กล่าวถึงบ้านหม้อไว้ว่า “ บ้านเตาไห” ที่ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของเมืองพิชัยว่าเจริญรุ่งเรืองมากผู้คนอาศัยกันอย่างหนาแน่น ดังหลักฐาน ต่อมาอีกคราวนี้ระยะบ้านห่างออกมีป่าคั่นเป็นตอนๆ ถ้าเป็นหมู่บ้านเตาไหครึกครื้นมาก(พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว.2515 : 37-38 ) ซึ่งเรียกว่าเตาไหใน คราวนั้นน่าจะเป็นตำบลบ้านหม้อ เพราะข้อความระบุไว้ชัดเจนว่าทางทิศใต้ของอุตรดิตถ์ ซึ่งเป็นหลักฐานที่บ่งบอกถึงลักษณะที่ตั้งของตำบลบ้านหม้อในปัจจุบันจากประเด็นข้างต้นจะเห็นได้ว่าการวิเคราะห์จากหลักฐานชั้นต้นที่กล่าวถึงตำบลบ้านหม้อว่าชื่อเตาไห แต่เมื่อไปสัมภาษณ์ผู้รู้ร่วมสมัยได้ข้อมูลที่ขัดแย้งกันว่าบ้านหม้อนั้นเรียกตามอาชีพที่ทำกินในสมัยนั้น
กล่าวโดยสรุปการตั้งชื่อบ้านหม้อ เป็นการเล่าสืบต่อกันมาว่าชาวบ้านแถบนี้มีอาชีพปั้นหม้อขาย เพราะสภาพภูมิศาสตร์อำนวย โดยนำหม้อไปเผาและเก็บที่บ้านโรงหม้อ ต่อมาโรงเก็บหม้อได้กลายเป็นโรงม้าของทหารเมืองพิชัย จึงตั้งชื่อบ้านหม้อตามอาชีพของคนในชุมชน
สภาพทั่วไปของตำบล
ประชาชนส่วนใหญ่ในตำบลประกอบอาชีพเกษตรกรรม ข้าวเป็นพืชเศรษฐกิจและเป็นรายได้หลักของครอบครัว นอกจากนี้ยังมีพืชชนิดอื่นๆ ได้แก่ ถั่วเหลือง ฯลฯ และมีการเลี้ยงสัตว์ไว้เพื่อเป็นการบริโภคและจำหน่ายบ้าง ได้แก่ โค กระบือ สุกร และไก่ มีการประมงเลี้ยงปลาต่างๆ เป็นต้น นอกจากนี้มีการรับจ้างทั่วไป ค้าขาย รับราชการ จำนวนประชากรตำบลบ้านหม้อ มีจำนวนประชากรทั้งสิ้น 5,871 คน แยกเป็นชาย 2,868 คน หญิง 3,018 คน มีความหนาแน่นเฉลี่ย 107 คนต่อตารางกิโลเมตร สามารถแยกประชากร แต่ละหมู่บ้านได้ดังนี้อาณาเขตตำบล
ทิศเหนือ ติดต่อกับ ตำบลในเมืองและตำบลคอรุม อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ทิศใต้ ติดต่อกับ ตำบลบ้านโคนและตำบลท่ามะเฟือง อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์
ทิศตะวันออก ติดต่อกับ ตำบลนาอิน และตำบลนายาง อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์
ทิศตะวันตก ติดต่อกับ ตำบลท่ามะเฟืองและตำบลคอรุม อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์
ด้านการศึกษา
การศึกษาของตำบลบ้านหม้อได้เริ่มพัฒนาเป็นการจัดการศึกษาแบบสากลโดยมีโรงเรียนในตำบลบ้านหม้อ จำนวน 4 โรงเรียน
1. โรงเรียนวัดโรงม้า ตั้งอยู่หมู่ที่ 1 เปิดสอนระดับชั้นประถมศึกษา
2. โรงเรียนบ้านดอนโพ ตั้งอยู่หมู่ที่ 3 เปิดสอนระดับชั้นประถมศึกษา
3. โรงเรียนบ้านโรงหม้อมิตรภาพที่ 75 ตั้งอยู่หมู่ที่ 4 เปิดสอนระดับชั้นประถมศึกษา
4. โรงเรียนบ้านท้ายน้ำ ตั้งอยู่หมู่ที่ 5 เปิดสอนระดับชั้นประถมศึกษา
โรงเรียนที่เก่าแก่ที่สุดที่เปิดทำการสอนนักเรียน คือ โรงเรียนวัดโรงม้า ที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อ วันที่ 1 กรกฎาคม 2466 ได้เปิดทำการสอนตั้งแต่อนุบาลจนถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ซึ่งเป็นเครื่องชี้ให้เห็นว่าการศึกษาของตำบลบ้านหม้อได้มีการจัดการศึกษาเหมือนบริเวณอื่นแต่ขาดหลักฐานชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนได้นอกจากการศึกษาข้อมูลจากผู้รู้ชุมชนเท่านั้น
นอกจากนี้ยังมีสถานศึกษาที่ให้ความรู้กับนักเรียนอีหลายแห่ง ดังนี้
1. ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กก่อนวัยเรียนบ้านดอนโพ ตั้งอยู่หมู่ที่ 2
2. ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ตั้งอยู่หมู่ที่ 2
3. ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กก่อนวัยเรียนบ้านท้ายน้ำ ตั้งอยู่หมู่ที่ 5
ด้านศาสนา
1. บึงสัมพันธ์ตั้งอยู่เลขที่ 8/1 บ้านหาดสาแล หมู่ที่ 6 ตำบลบ้านหม้อ อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ สังกัดคณะสงฆ์
ธรรมยุต มีที่ดินตั้งวัดเนื้อที่ 65 ไร่ 40 ตารางวา
พื้นที่ตั้งวัดเป็นที่ราบสูง อาคารเสนาสนะต่าง ๆ มี ศาลาการเปรียญกว้าง 20 เมตร ยาว 50 เมตร
สร้าง พ.ศ. 2529 หอสวดมนต์กว้าง 9 เมตร ยาว 14 เมตร สร้าง พ.ศ.2529 กุฎิสงฆ์ จำนวน 9 หลัง เป็นอาคารไม้ ศาลาบำเพ็ญกุศล 4 หลัง เป็นอาคารไม้ สำหรับปูชนียวัตถุมีพระประธานที่ศาลาการเปรียญเนื้อโลหะ สร้าง พ.ศ. 2530 อยู่ที่หอสวดมนต์ จำนวน 19 องค์
วัดบึงสัมพันธ์ เดิมเป็นวัดร้าง ต่อมาประชาชนได้ร่วมใจกันทำการบูรณปฏิสังขรณ์ขึ้นมาใหม่
กระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศยกสภาพวัดร้างเป็นวัดมีพระสงฆ์ เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2530
เจ้าอาวาสมีนามว่า พระอธิการแสวง สนุ ตุสุ สโก
2. วัดท่าไม้เหนือ
วัดท่าไม้เหนือ ตั้งอยู่เลขที่ 141 บ้านท้ายน้ำ หมู่ที่ 5 ตำบลบ้านหม้อ อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์
สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย มีเนื้อที่ตั้งวัด เนื้อที่ 24 ไร่ 1 งาน 63 ตารางวา อาณาเขตทิศเหนือยาว 154 วา ติดต่อกับที่ดิน นางหน่วง ทิศใต้ยาว 133 วา ติดต่อกับที่ดิน นายบัว นางเฟื้อ ทิศตะวันออกยาว 84 วา ติดต่อกับทางสาธารณะ ทิศตะวันตดยาว 56 วา ติดต่อกับที่ดิน นายช่วง นางชะลอ โดยมี นส.3 เลขที่ 1857 เป็นหลักฐาน
พื้นที่ตั้งวัดเป็นที่ราบสูง อาคารเสนาะสนะต่าง ๆ มี อุโบสถกว่าง 5 เมตร ยาว 11.50 เมตร สร้าง
พ.ศ. 2517 กุฏิสงฆ์ จำนวน 3 หลัง
วัดท่าไม้เหนือ สร้างขึ้นเป็นวัดนับตั้งแต่ พ.ศ. 2501 ประชาชนร่วมใจจัดสร้างวัดนี้ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาประมาณ พ.ศ. 2518
เจ้าอาวาสมีนามว่า พระครูวิสุทธิ ปัญญาสาร รองเจ้าคณะจังหวัดอุตรดิตถ์
3. วัดโพธาราม
วัดโพธาราม ตั้งอยู่เลขที่ 174 บ้านดอนโพ หมู่ที่ 8 ตำบลบ้านหม้อ อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์
สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย มีเนื้อที่ตั้งวัด เนื้อที่ 6 ไร่ 3 งาน 27 ตารางวา อาณาเขตทิศเหนือยาวติดต่อกับที่ดิน นายแสวง ทิศใต้ยาวติดต่อกับที่ดิน นายไหล ทิศตะวันออกติดต่อกับถนนสาธารณะ ทิศตะวันตกติดต่อกับที่ดินนางปลา โดยมีโฉนด เลขที่ 2157 เป็นหลักฐาน
พื้นที่ตั้งวัดเป็นที่ราบลุ่ม อาคารเสนาสนะต่าง ๆ มี อุโบสถกว้าง 6 เมตร ยาว 1 เมตร สร้างขึ้น พ.ศ.
2476 ศาลาการเปรียญหลังเก่ากว้าง 25 เมตร ยาว 30 เมตร ยาว 30 เมตร สร้าง พ.ศ. 2471 หอสวดมนต์ กว้าง 8 เมตร ยาว 14 เมตา สร้าง พ.ศ.2518 กุฏิสงฆ์ จำนวน 3 หลัง (ศาลาการเปรียญหลังใหม่ 2 ชั้น กว้าง 30 เมตร ยาว 20 เมตร
วัดโพธาราม สร้างขึ้นเป็นวัดนับตั้งแต่ประมาณ พ.ศ. 2463 ประชาชนร่วมใจกันจัดสร้างวัดนี้ ได้รับ
พระราชทานวิสุงคามสีมา วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2492
เจ้าอาวาสมีนามว่า พระอธิการมังกร มหิทธิโก
4. วัดโรงม้า
วัดโรงม้า ตั้งอยู่เลขที่ 84 บ้านหม้อ หมู่ที่ 1 ตำบลบ้านหม้อ อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์
สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย มีเนื้อที่ตั้งวัด เนื้อที่ 36 ไร่ 2 งาน 89 ตารางวา อาณาเขตทิศเหนือติดต่อกับที่ดิน นางจัน ทิศใต้ติดต่อกับที่ดิน นางเปย ทิศตะวันตกติดต่อกับแม่น้ำน่าน
พื้นที่วัดเป็นที่ราบลุ่มอยู่ริมแม่น้ำน่าน อาคารเสนาสนะต่าง ๆมีอุโบสถกว้าง 6 เมตร ยาว 18 เมตร
ศาลาการเปรียญกว้าง 26 เมตร สร้าง พ.ศ. 2524 หอสวดมนต์กว้าง 6 เมตร ยาว 10 เมตร สร้าง พ.ศ. 2507 กุฏิสงฆ์ จำนวน 6 หลัง
วัดโรงม้า สร้างขึ้นนับเป็นวัดนับตั้งแต่ประมาณ พ.ศ.2432 ได้พระราชทานวิสุงครามสีมาประมาณ
พ.ศ. 2445
เจ้าอาวาสมีนามว่า พระปลัดสนิท ธมุมทินุโน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น